340/1-2 ถ.สาธุประดิษฐ์ แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กทม. 10120
พาส่องแอร์ไดกิ้น 18000 BTU ราคาเท่าไหร่ ทำไมแอร์ 18,000 BTU จึงเป็นที่นิยม
แอร์ไดกิ้น (DAIKIN) ต่างจากยี่ห้ออื่นอย่างไร?
แอร์ไดกิ้น หรือ Daikin เป็นแอร์แบรนด์สัญชาติญี่ปุ่น ก่อตั้งมากว่า 80 กว่าปี เป็นผู้เชี่ยวชาญการผลิตเครื่องปรับอากาศ มีการจัดจำหน่ายทั่วโลก โดยไดกิ้นได้ถูกนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยตั้งแต่ปี 1968 หรือกว่า 50 ปีที่ผ่านมา (ปัจจุบันปี 2021) นับได้ว่าเป็นแอร์แบรนด์ที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนาน และ ในปี 2008 แอร์ไดกิ้นถูกขนานนามว่า เป็นแบรนด์แอร์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมในวงการแอร์ นอกจากบริษัทไดกิ้น ผลิตเครื่องปรับอากาศแล้ว ยังเป็นผู้ผลิตเครื่องฟอกอากาศที่มีคุณภาพอีกด้วย (เหมาะกับประเทศไทยอย่างมาก สำหรับ ยุคฝุ่น PM 2.5) โดยบทความนี้เราจะมาดูกันว่า แอร์ไดกิ้น 18000 BTU ราคา เป็นอย่างไร และห้องขนาดไหน เหมาะกับ BTU เท่าไหร่
ซึ่งแอร์ไดกิ้น 18000 BTU ถือว่าได้รับความนิยมค่อนข้างสูง เพราะจะเหมาะกับการทำความเย็นในขนาดห้องหมาตรฐานของประเทศไทย เนื่องจากหากใช้ BTU ที่ต่ำกว่านี้ก็อาจจะมีกำลังการผลิตความเย็นต่ำ หรือหากใช้ BTU สูงกว่านี้ก็อาจจะเปลืองไฟได้ แอร์ไดกิ้น 18000 BTU ราคา ก็จะไม่ถึงกับสูงและต่ำเกิน จึงเป็นรุ่นที่ค่อนข้างได้รับความนิยม
ทำไมแอร์ไดกิ้น ถึงเป็นที่นิยม??
เนื่องจากแอร์ไดกิ้นเป็นบริษัทที่ผลิตเครื่องปรับอากาศได้อย่างมีคุณภาพ จึงทำให้คนไทยเชื่อถือสินค้าของแบรนด์นี้เป็นอย่างมาก ยกตัวอย่าง อะไหล่ในตัวเครื่อง เช่น แผงรังผึ้งคอยเย็น ทำมาจากทองแดง ซึ่งทนทาน (รั่วยาก) มากกว่า แผงรังผึ้งที่ทำมาจากอลูมิเนียม ทำให้อายุการใช้งานของสินค้าใช้ได้อย่างยาวนาน และด้วยดีไซส์ทีทันสมัย พัฒนาตามยุคสมัยเรื่อยมา เช่น คอยร้อนของแอร์ (แอร์ตัวนอกบ้าน) ได้ถูกพัฒนาให้เล็กลงมากจากสมัยก่อน และถ้าได้ลองเทียบขนาดกับแบรนด์อื่นๆ จะเห็นได้ชัดว่าขนาดเล็กลงกว่ามาก เหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยน้อย นอกจากนี้อะไหล่ต่างๆ ยังหาซื้อได้ง่ายตามร้านขายอะไหล่แอร์ทั่วไป
แอร์ไดกิ้นแต่ละ BTU ต่างกันอย่างไร??
จะเห็นได้ว่าแอร์มีหลายขนาดเป็นอย่างมาก เนื่องจากแต่ละขนาดจะมีกำลังการผลิตความเย็นต่างกัน ขนาดเล็กก็จะมีกำลังผลิตความเย็นไม่เท่าขนาดใหญ่
โดยการคำนวนขนาดของ BTU แอร์จะอิงจากขนาดห้อง ความร้อนในห้อง ปริมาณจุคน และจุดประสงค์ของห้องที่ใช้อีกด้วย
วิธีคิดคำนวนขนาดแอร์ BTU มีดังต่อไปนี้
BTU = พื้นที่ห้อง (กว้าง X ยาว)ม. x ค่าตัวแปร
เช่น หากต้องการแอร์ยี่ห้อ Daikin สำหรับ ห้องนอน 4×6 ม. ไม่ร้อน หน้าต่างไม่เยอะ
= 4 x 6 x 800 = 16,000 BTU
ดังนั้น ห้องนี้จึงเหมาะกับแอร์ที่ขนาด = หรือ > 16,000 BTU ขึ้นไป
ซึ่งโดยปกติแล้วแต่ละยี่ห้อจะมีขนาดให้เลือกหลายระดับ
เช่น 9,000 BTU
12,000 BTU
15,000 BTU
18,000 BTU
20,000 BTU และอื่นๆ
โดยในเคสนี้ ห้องนี้จึงเหมาะกับ แอร์ไดกิ้น 18,000 BTU เป็นต้น
ค่าตัวแปร
700-800 = สำหรับห้องนอน หรือห้องที่มีความร้อนน้อย
(ห้องที่ไม่โดนแดดหรือโดนเล็กน้อย ฝ้าต่ำ หรือห้องที่ใช้แอร์ช่วงกลางคืน)
800-900 = สำหรับห้องรับแขก หรือห้องที่มีความร้อนปานกลาง – มาก
(ห้องที่โดนแดด อยู่ทิศตะวันตก หรือใช้แอร์ช่วงกลางวัน)
900-1000 = สำหรับห้องทำงาน ห้องออกกำลังกาย ห้องที่มีความร้อนมากหรือฝ้าสูง (ห้องที่โดนแดด อยู่ทิศตะวันตก อยู่ชั้นบนสุด หรือใช้แอร์ช่วงกลางวัน)
1000-1200 = สำหรับร้านคำ ร้านอาหารที่เปิดดประตูบ่อย ร้านทำผม ร้านชาบู ปิ้งย่าง
หรือสำนักงานที่มีคนอยู่จำนวนมาก
*หากฝ้าเพดานสูงกว่า 2.5 เมตร มีจำนวนคนในห้องมาก หรือมีคอมพิวเตอร์เยอะ
ควรบวกค่า BTU เพิ่มขึ้นอีก 5% จากค่าปกติ
แอร์ไดกิ้น 18000 BTU ราคา เริ่มที่เท่าไหร่
แอร์ไดกิ้น 18000 BTU มีหลายราคา แล้วแต่รุ่น โดยเริ่มต้นเพียง 20,900 บาท ในรุ่น Sabai Inverter II (FTKQ-TV2S) และค่อยๆ ขยับขึ้นมาเรื่อยๆ เช่น 21,195 บาท ในรุ่น Smash II (FTM-PV2S) และ 44,966 บาท ในรุ่น Cassette Premium Inveter (FCF-CV2S) แบบไรสาย เป็นต้น
เครื่องปรับอากาศ SMASH II ให้ประสิทธิภาพการทำความเย็นสูงด้วยสารทำความเย็นเจเรอเรชั่นใหม่ R32 ดีไซน์ใหม่ ประหยัดพลังงาน ช่วยลดการเกิดภาวะเรือนกระจก พร้อมโหมดเย็นเร็ว อ่านต่อ...
Sabai Plus Inverter เป็นนวัตกรรมเครื่องปรับอากาศของไดกิ้นซึ่งรวมการประหยัดพลังงานและประสิทธิภาพการทำความเย็นไว้ด้วยกัน อ่านต่อ...
ก้าวไปอีกขั้นกับความอัจฉริยะของเครื่องปรับอากาศไดกิ้น ซึ่งรวมการประหยัดพลังงานด้วยค่า SEER สูงสุดถึง 26.05 และการควบคุมระดับความชื้นในทุกสภาวะ ลดความรู้สึกอับชื้น อ่านต่อ...
Sabai Inverter II เป็นเครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์ที่มาพร้อมความคุ้มค่าทั้งเรื่องการประหยัดพลังงานและความทนทาน ให้คุณเป็นเจ้าของเครื่องปรับอากาศคุณภาพญี่ปุ่นได้ง่ายๆ อ่านต่อ...